- Agentic AI คือซอฟต์แวร์ที่ตัดสินใจได้เองเพื่อบรรลุเป้าหมายโดยแทบไม่ต้องพึ่งพามนุษย์
- “Agentic AI” หมายถึงความสามารถนี้ ส่วน “AI agents” คือการนำความสามารถนี้ไปใช้จริงในรูปแบบต่าง ๆ
- ระบบ Agentic AI อาจมีอยู่ในรูปแบบอื่นนอกเหนือจาก agent เช่น ฝังอยู่ในเฟรมเวิร์กหรือแพลตฟอร์มขนาดใหญ่
- การสนับสนุนลูกค้าเป็นหนึ่งในกรณีใช้งานหลัก โดยคาดว่า agentic AI จะสามารถจัดการปัญหาบริการได้เองถึง 80% ภายในปี 2029
เอเจนต์ AI และ แชทบอท AI ไม่ใช่แค่คำศัพท์ไกลตัวอีกต่อไป ซึ่งกำลังขับเคลื่อนกระบวนการทางธุรกิจทั่วโลก และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การใช้งานจริงของเอเจนต์ AI มีตั้งแต่ ผู้ช่วย AI บนอุปกรณ์ของคุณ ไปจนถึงเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าที่คุณติดต่อผ่านออนไลน์
สนใจตัวอย่างการใช้งานเอเจนต์ AI และแชทบอทอยู่หรือเปล่า? มาดู 25 วิธีที่องค์กรต่าง ๆ ใช้เทคโนโลยี AI ในปัจจุบันกัน:
กรณีการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า

เอเจนต์ AI ที่ทำงานกับลูกค้าโดยตรงเป็นประเภทที่หลายคนคุ้นเคยที่สุด พวกเขามีบทบาทในการเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้า ด้วยการให้บริการที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ และปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
มีโอกาสสูงที่คุณเคยโต้ตอบกับเอเจนต์เหล่านี้มาแล้ว ไม่ว่าจะตอนช้อปปิ้ง แก้ปัญหา หรือท่องเว็บ
1. การสนับสนุนลูกค้า
แชทบอทสนับสนุนลูกค้า เป็นกรณีที่พบได้บ่อยที่สุด สามารถรับมือกับคำถามจำนวนมาก ตอบคำถามที่พบบ่อยทันที ช่วยแก้ปัญหา และแนะนำผู้ใช้ไปยังแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ด้วยการเชื่อมต่อกับฐานความรู้และระบบทิกเก็ต พวกเขาช่วยให้กระบวนการสนับสนุนเป็นไปอย่างราบรื่น ลดเวลารอคอย และทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับการดูแล โดยไม่ทำให้เจ้าหน้าที่มนุษย์ต้องรับภาระมากเกินไป
2. ผู้ช่วยด้านการขาย
เอเจนต์ AI สามารถนำมาใช้ในทุกขั้นตอนของ กระบวนการขายด้วย AI พวกเขาช่วยแนะนำสินค้า เปรียบเทียบคุณสมบัติ และให้ข้อมูลราคา หรือสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์
ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ เพิ่มความพึงพอใจและอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสินค้าในแคตตาล็อก หรือเสนอขายเพิ่มเติมตามความสนใจ แชทบอทขายของ กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ
3. การสร้างลีด
บอทสร้างลีด lead gen bots เป็นเอเจนต์ขายประเภทหนึ่งที่มักไม่ได้เน้นการขายโดยตรง แต่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ การมีเอเจนต์ AI ช่วยให้การดึงดูดและคัดกรองลูกค้าเป้าหมายเป็นเรื่องง่ายขึ้น พวกเขาจะเริ่มต้นบทสนทนา ถามคำถามเฉพาะเจาะจง และรวบรวมข้อมูลสำคัญ เช่น อีเมลหรือความสนใจของลูกค้า
ด้วยการเชื่อมต่อกับระบบ CRM อย่างไร้รอยต่อ พวกเขาช่วยดูแลลีดจนพร้อมสำหรับการติดตามผลโดยทีมขาย ทำให้ทีมสามารถโฟกัสกับลีดคุณภาพสูงได้มากขึ้น
4. อีคอมเมิร์ซ
ตั้งแต่การติดตามคำสั่งซื้อไปจนถึงการตอบคำถามเกี่ยวกับสต็อก AI ด้านการสนทนาสำหรับอีคอมเมิร์ซ มีอยู่ทุกที่
เอเจนต์เหล่านี้แนะนำสินค้าให้เหมาะกับประวัติการเข้าชมหรือความสนใจ เพิ่มโอกาสในการซื้อ อีกทั้งยังช่วยดูแลหลังการขาย จัดการคืนสินค้า และเสนอขายสินค้าที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
5. การตลาดและการเข้าถึง
เอเจนต์ AI สำหรับการตลาด กำลังได้รับความนิยมในทีม go-to-market ที่หันมาใช้ การตลาดแบบสนทนา มากขึ้น
พวกเขาสามารถขับเคลื่อนแคมเปญเข้าถึงลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล ด้วยการสร้างข้อความที่เหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เอเจนต์เหล่านี้ยังช่วยค้นหาโอกาสในการมีส่วนร่วมกับลูกค้าใหม่หรือเก่า ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญโปรโมชั่น การติดตามผล หรือการกระตุ้นให้กลับมาซื้อซ้ำ
กรณีการใช้งานภายในองค์กร

เอเจนต์ AI ไม่ได้มีไว้แค่สำหรับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงการทำงานภายในองค์กรด้วย
ด้วยการทำให้เวิร์กโฟลว์มีประสิทธิภาพและให้ความช่วยเหลือแบบออนดีมานด์ แชทบอทภายในองค์กรกำลังช่วยให้การทำงานในที่ทำงานคล่องตัวมากขึ้น
นี่คือวิธีที่พวกเขาสร้างคุณค่าเบื้องหลังฉาก
6. สนับสนุนพนักงาน
แชทบอท HR เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบาย วันลาพักร้อน และขั้นตอนการเริ่มงาน
พวกเขาให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่พนักงานได้ทันที ลดความจำเป็นในการรอฝ่าย HR และช่วยให้การดำเนินงานภายในเป็นไปอย่างราบรื่น
7. การจัดการความรู้
เอเจนต์ AI ช่วยให้เข้าถึงความรู้ขององค์กรได้ง่ายขึ้น ด้วยการค้นหาเอกสาร สรุปข้อมูลที่ซับซ้อน และให้คำตอบอย่างรวดเร็ว
พวกเขาช่วยในงานต่าง ๆ เช่น การทำความเข้าใจข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ หรือค้นหาแหล่งข้อมูลของโครงการ เพื่อให้ข้อมูลพร้อมใช้งานสำหรับทุกทีม
8. การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ
เอเจนต์ AI ช่วยพัฒนาศักยภาพพนักงาน ด้วยการแนะนำคอร์สและแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะกับแต่ละบทบาทหรือเป้าหมาย
พวกเขาให้เข้าถึงสื่อการเรียนรู้แบบทันที มีแบบทดสอบและสถานการณ์จำลองแบบโต้ตอบ ช่วยให้การฝึกอบรมมีประสิทธิภาพและน่าสนใจยิ่งขึ้น
9. ระบบอัตโนมัติกระบวนการ
หลายบริษัทปล่อยให้พนักงานเสียเวลากับงานซ้ำซากโดยไม่จำเป็น
แต่เมื่อใช้เอเจนต์ AI งานประจำ เช่น การนัดหมาย จัดการเอกสาร หรือออกใบแจ้งหนี้ จะกลายเป็นเรื่องง่าย
ด้วยการทำงานซ้ำ ๆ ให้เป็นอัตโนมัติ พวกเขาช่วยให้พนักงานมีเวลาทำงานเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพให้ทั้งองค์กร
10. ผู้ช่วยวิจัย
เอเจนต์ AI ช่วยให้งานอย่างการสรุปรายงาน ค้นหาแนวโน้ม และตอบคำถามที่ซับซ้อนเป็นเรื่องง่ายขึ้น
พวกเขาประมวลผลข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็ว สกัดข้อมูลสำคัญ และนำเสนอผลลัพธ์ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย สนับสนุนการตัดสินใจในแวดวงวิชาการ ธุรกิจ และวิทยาศาสตร์
11. การพัฒนาผลิตภัณฑ์
เอเจนต์ AI สามารถช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้วยการวิเคราะห์ความคิดเห็นลูกค้าเพื่อค้นหาอินไซต์ที่มีค่า
พวกเขาติดตามแนวโน้มตลาดแบบเรียลไทม์ ให้คำแนะนำโดยอิงข้อมูล และทำงานประจำให้เป็นอัตโนมัติ
12. การวิเคราะห์ข้อมูล
ในทำนองเดียวกัน เอเจนต์ AI ยังช่วยให้งานวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพขึ้น เพราะสามารถทำงานซ้ำ ๆ เช่น การทำความสะอาดข้อมูลและสร้างรายงานโดยอัตโนมัติ
พวกเขารวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง และส่งต่ออินไซต์ที่นำไปใช้ได้จริงให้กับทีมต่าง ๆ ในองค์กร เช่น การระบุแนวโน้มหรือการติดตาม KPI
13. ระบบอัตโนมัติเวิร์กโฟลว์แบบกำหนดเอง
สำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะทาง เช่น ไบโอเทค พลังงาน หรือก่อสร้าง เอเจนต์ AI สามารถสร้างเวิร์กโฟลว์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้านได้
ตั้งแต่การป้อนข้อมูลห้องแล็บโดยอัตโนมัติ ไปจนถึงการปรับปรุงการกระจายพลังงาน พวกเขาช่วยให้องค์กรนำโซลูชันที่เหมาะสมมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในสภาพแวดล้อมเฉพาะทาง
14. การตรวจสอบเนื้อหา
เอเจนต์ AI ช่วยให้การตรวจสอบเนื้อหามีประสิทธิภาพ ด้วยการกรองเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นให้สอดคล้องกับนโยบายบริษัทหรือข้อกฎหมาย
พวกเขาตรวจจับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม อันตราย หรือผิดข้อกำหนดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ปลอดภัยและปกป้องชื่อเสียงของแบรนด์
กรณีการใช้งานเฉพาะอุตสาหกรรม

เอเจนต์ AI กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยการตอบโจทย์และความท้าทายเฉพาะของแต่ละภาคส่วน
ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพหรือการเดินทาง ระบบเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการและปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยโซลูชันที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
15. สุขภาพ
หนึ่งในอุตสาหกรรมที่นำ AI แบบเอเจนต์มาใช้เร็วที่สุดคือสุขภาพ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เทคโนโลยีใหม่สร้างผลกระทบสูง
เอเจนต์ AI ถูกนำมาใช้ช่วยตรวจสอบอาการ นัดหมาย และอธิบายขั้นตอนทางการแพทย์ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
แชทบอทด้านสุขภาพ ช่วยให้การติดต่อกับผู้ป่วยเป็นไปอย่างราบรื่น ลดภาระงานเอกสาร และให้คำแนะนำด้านสุขภาพที่ถูกต้องและเข้าถึงง่าย
16. การเงิน
ตั้งแต่การจัดการบัญชีไปจนถึงการให้คำแนะนำการลงทุนแบบเฉพาะบุคคล เอเจนต์ AI ด้านการเงิน กำลังเปลี่ยนแปลงบริการทางการเงิน
พวกเขาแจ้งเตือนการตรวจจับการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ใช้ปลอดภัยและรับข้อมูลทันเหตุการณ์ ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ พวกเขาช่วยสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
17. การศึกษา
ในฐานะติวเตอร์เสมือน เอเจนต์ AI สำหรับนักเรียน สามารถช่วยสนับสนุนการเรียน ตอบคำถามวิชาการ และจัดแผนการเรียนที่เหมาะกับแต่ละบุคคล
AI แชทบอทสำหรับการศึกษา ทำให้การเรียนรู้มีความโต้ตอบและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ช่วยให้นักเรียนและครูมีเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จ ทั้งในห้องเรียนและออนไลน์
18. อสังหาริมทรัพย์
อุตสาหกรรมที่มีการนำแชทบอทมาใช้มากที่สุดคืออสังหาริมทรัพย์ – และ แชทบอทอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เอเจนต์ AI ช่วยให้กระบวนการในอสังหาริมทรัพย์ง่ายขึ้น ด้วยการแนะนำอสังหาริมทรัพย์ จัดการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และทำงานเอกสารอัตโนมัติ เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าด้วยข้อเสนออสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะสม และช่วยลดภาระงานเอกสารให้กับตัวแทนมนุษย์
19. การท่องเที่ยวและโรงแรม
เอเจนต์ AI จัดการงานต่าง ๆ เช่น การจองทริป วางแผนการเดินทาง และจัดการความต้องการเฉพาะ เช่น ประเภทห้องพักหรือกิจกรรม
แชทบอทโรงแรม ถูกนำมาใช้มากขึ้นสำหรับการจองห้อง ขอรับบริการเสริม และแนะนำสถานที่ใกล้เคียง ช่วยให้ประสบการณ์การเดินทางราบรื่นด้วยการสนับสนุนแบบเรียลไทม์ที่ตรงกับความต้องการ
อ่าน กรณีศึกษาของเราเกี่ยวกับแชทบอทโรงแรม เพื่อดูแนวคิดเพิ่มเติมว่าพวกมันช่วยเหลือแขกและพนักงานได้อย่างไร
20. การช่วยเหลือทางกฎหมาย
เอเจนต์ AI ช่วยให้งานด้านกฎหมายง่ายขึ้นด้วยการสรุปสัญญายาว ๆ เน้นประเด็นสำคัญ และแจ้งเตือนความเสี่ยงหรือปัญหาการปฏิบัติตามข้อกำหนด ช่วยประหยัดเวลาให้ทีมกฎหมายด้วยการวิเคราะห์เอกสารจำนวนมากอย่างแม่นยำ ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดที่มีค่าใช้จ่ายสูง
กรณีการใช้งานขั้นสูง

หากคุณสร้างบนแพลตฟอร์มที่ขยายความสามารถได้ คุณสามารถพัฒนา AI agent ที่ทำงานแบบหลายขั้นตอนในทุกกรณีการใช้งาน
นี่คือตัวอย่างวิธีสร้างสรรค์ที่นักพัฒนาแชทบอทนำเครื่องมืออัตโนมัติ AI ไปใช้จริง
21. การจัดการอีเวนต์
การวางแผนอีเวนต์เกี่ยวข้องกับงานด้านโลจิสติกส์ที่ซับซ้อน ตั้งแต่การประสานงานกับผู้ขายไปจนถึงการแจ้งข้อมูลผู้เข้าร่วม แต่เอเจนต์ AI ช่วยให้งานเหล่านี้ง่ายขึ้น
เครื่องมือเหล่านี้จัดการทุกอย่าง ตั้งแต่การประสานตารางเวลา ส่งการแจ้งเตือน ดูแลการลงทะเบียน ติดตามความต้องการของผู้เข้าร่วม และเก็บฟีดแบ็กหลังงาน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรายละเอียดใดตกหล่น
22. งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
โครงการวิจัยต้องการความละเอียดรอบคอบและการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เอเจนต์ AI กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่พบได้บ่อยในสถาบันวิจัย
เอเจนต์ AI เหล่านี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลซับซ้อน สร้างสมมติฐาน และช่วยทบทวนวรรณกรรมที่ใช้เวลานานโดยอัตโนมัติ
ด้วยการค้นหารูปแบบและสรุปผลลัพธ์ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้นักวิจัยมีเวลามุ่งเน้นที่ข้อมูลเชิงลึกและนวัตกรรมสำคัญ
23. การจัดการวิกฤต
สถานการณ์ฉุกเฉินต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็วและข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งเอเจนต์ AI สามารถตอบโจทย์นี้ได้ดี
ด้วยการติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์ เอเจนต์ AI สามารถเฝ้าระวังสถานการณ์ วิเคราะห์ความเสี่ยง และให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง ช่วยให้ทีมประสานงานทรัพยากร วางแผนรับมือ และควบคุมสถานการณ์ในภาวะกดดัน
24. การจัดการซัพพลายเชน
AI agent สามารถคาดการณ์แนวโน้มความต้องการ ปรับปรุงการจัดการสต็อก และทำงานโลจิสติกส์อัตโนมัติ ซัพพลายเชนยุคใหม่มีความซับซ้อน ต้องการการคาดการณ์ที่แม่นยำและโลจิสติกส์ที่ราบรื่นเพื่อให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ AI agent ช่วยป้องกันความล่าช้า ลดต้นทุน และรักษาการดำเนินงานของซัพพลายเชนให้ราบรื่น
25. ความปลอดภัยไซเบอร์
ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นต้องการการเฝ้าระวังและการตอบสนองที่รวดเร็วและชาญฉลาด
AI agent เสริมความปลอดภัยไซเบอร์ด้วยการตรวจสอบเครือข่าย ค้นหาช่องโหว่ และตรวจจับความผิดปกติแบบเรียลไทม์ ใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามก่อนจะลุกลาม เพื่อให้ระบบปลอดภัยและทำงานต่อเนื่อง
สร้าง AI agent ตามความต้องการ
AI agent และแชทบอทกำลังถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่บริการลูกค้า งานภายในองค์กร ไปจนถึงอีคอมเมิร์ซ บริษัทที่ปรับตัวช้าจะพลาดโอกาสสำคัญจากกระแส AI
Botpress คือแพลตฟอร์ม AI agent ที่ขยายขีดความสามารถได้ไม่สิ้นสุด ออกแบบมาสำหรับองค์กร นักพัฒนาสามารถสร้าง agent ที่ขับเคลื่อนด้วย LLM ให้มีความสามารถตามที่ต้องการได้
ชุดความปลอดภัยขั้นสูงของเราช่วยให้ข้อมูลลูกค้าปลอดภัยอยู่เสมอ และอยู่ภายใต้การควบคุมของทีมพัฒนาของคุณอย่างสมบูรณ์
หรือติดต่อ ทีมขายของเรา เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อย
1. ความแตกต่างระหว่าง AI agent, แชทบอท และผู้ช่วยเสมือนคืออะไร?
ความแตกต่างระหว่าง AI agent, แชทบอท และผู้ช่วยเสมือนอยู่ที่ความซับซ้อนและขีดความสามารถ: แชทบอทมักตอบคำถามตามกฎหรือสคริปต์ที่กำหนดไว้ ผู้ช่วยเสมือนอย่าง Siri หรือ Alexa จัดการงานที่หลากหลายด้วยเสียงและเข้าใจบริบท ส่วน AI agent สามารถตัดสินใจได้เองโดยอัตโนมัติ
2. AI agent แตกต่างจากเครื่องมืออัตโนมัติแบบเดิม เช่น RPA อย่างไร?
AI agent แตกต่างจากเครื่องมืออัตโนมัติแบบ RPA ตรงที่ RPA จะทำงานตามกฎที่ตายตัว เช่น กรอกแบบฟอร์มหรือป้อนข้อมูลโดยเลียนแบบการใช้งาน UI ในขณะที่ AI agent สามารถปรับตัวตามสถานการณ์และตัดสินใจตามบริบทระหว่างการโต้ตอบได้
3. มีอุตสาหกรรมใดที่ไม่แนะนำให้ใช้ AI agent หรือไม่?
AI agent ไม่แนะนำสำหรับอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ระบบทหาร หรือควบคุมการบิน ซึ่งการตัดสินใจอัตโนมัติต้องตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังสามารถใช้กับงานภายในที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น IT helpdesk หรือ HR support ในอุตสาหกรรมเหล่านั้นได้
4. ต้องมีทักษะทางเทคนิคอะไรบ้างในการสร้างและใช้งาน AI agent?
การสร้างและใช้งาน AI agent ด้วยแพลตฟอร์มแบบ no-code อย่าง Botpress ต้องมีทักษะด้านการออกแบบบทสนทนาและตรรกะพื้นฐาน แต่หากต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง ควรมีประสบการณ์กับ JavaScript, REST API, การจัดการ JSON และความเข้าใจพฤติกรรมและโครงสร้างของ LLM
5. โดยปกติใช้เวลานานแค่ไหนตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงใช้งานจริง?
ระยะเวลาตั้งแต่แนวคิดจนถึงใช้งาน AI agent จริง โดยทั่วไปใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่วันจนถึงสองสัปดาห์สำหรับกรณีธุรกิจส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อใช้เทมเพลตสำเร็จรูปหรือเครื่องมือ no-code หากเป็น agent ที่ซับซ้อนและต้องการการเชื่อมต่อระบบหรือทดสอบเพิ่มเติม อาจใช้เวลานานขึ้น




.webp)
