ทุกวันนี้ ธุรกิจคาดหวังมากกว่าแค่ AI แชทบอท ที่ตอบแบบซ้ำๆ คุณต้องการเครื่องมือที่จัดการบทสนทนา อัตโนมัติงานต่างๆ และขยายตามการเติบโตของธุรกิจได้
Ada และ Botpress ต่างก็เป็น แพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับสร้าง AI แชทบอท แต่แต่ละตัวมีแนวทางและข้อเสนอที่แตกต่างกัน
กำลังตัดสินใจว่าควรเลือกตัวไหนมาใช้ในระบบของคุณ? นี่คือบทสรุปเปรียบเทียบ Ada กับ Botpress ของเรา
สรุปโดยย่อ: Ada กับ Botpress
สรุปสั้นๆ: Ada เหมาะกับทีมที่ต้องการแชทบอทบริการลูกค้าสำเร็จรูป ใช้งานเร็ว และพร้อมลงทุนสูงมาก ต้องพูดถึงตรงนี้ Botpress เหมาะกับทีมที่ต้องการปรับแต่งและควบคุมระบบอัตโนมัติบริการลูกค้าได้มากกว่า
Ada เป็นแพลตฟอร์มแบบไม่ต้องเขียนโค้ดสำหรับอัตโนมัติฝ่ายสนับสนุนลูกค้า เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการแชทบอทตอบคำถามทั่วไปและส่งต่อบทสนทนาให้เจ้าหน้าที่ได้เมื่อจำเป็น โดยทำงานได้ดีทั้งบนเว็บ มือถือ และโซเชียลมีเดีย

Botpress คือแพลตฟอร์ม AI แชทบอทสำหรับทีมที่ต้องการมากกว่าแค่ แชทบอทบริการลูกค้า ผู้ใช้สามารถสร้าง AI เอเจนต์ ขั้นสูงที่แก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ แทนที่จะส่งต่อปัญหาอย่างเดียว

ด้วยการเชื่อมต่อกับระบบเดิม, ตรรกะสนทนาเฉพาะ และ RAG (retrieval-augmented generation) ขั้นสูง Botpress ช่วยให้สร้างเอเจนต์ที่รองรับกรณีใช้งานซับซ้อนในฝ่ายสนับสนุนลูกค้าได้
เปรียบเทียบฟีเจอร์ทีละข้อ
เปรียบเทียบราคา Ada กับ Botpress
Ada ใช้โมเดลคิดราคาตามผลงาน โดยคิดตามจำนวนคำถามที่ AI ตอบได้ ราคาต่อปีของ Ada ประเมินอยู่ที่ $1,000 ถึง $70,000 ขึ้นกับปริมาณบทสนทนาและฟีเจอร์ เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีปริมาณงานสูงและต้องการระบบอัตโนมัติซับซ้อน หากต้องการราคาที่แน่นอน กรุณาติดต่อ Ada โดยตรง
Botpress ในทางกลับกัน มีแพ็กเกจราคาชัดเจน ทำให้ธุรกิจทุกขนาดเข้าถึงได้ง่ายกว่า:
Botpress ยังมีตัวเลือกจ่ายตามการใช้งานจริง ให้ทีมจ่ายเฉพาะส่วนที่ใช้ AI จริง จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจ
โดยสรุป Ada เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการจ่ายตามผลงาน ส่วน Botpress เหมาะกับทีมที่ต้องการค่าใช้จ่ายที่คาดการณ์ได้
ความสามารถในการเชื่อมต่อ
สรุปสั้น ๆ: Ada มีอินทิเกรตสำเร็จรูป 19 รายการที่เน้นเครื่องมือสนับสนุนลูกค้ายอดนิยม ส่วน Botpress มีอินทิเกรตมากกว่า 190 รายการครอบคลุมหลายแพลตฟอร์ม และยังช่วยให้สร้างอินทิเกรตแบบกำหนดเองได้ง่ายขึ้นเมื่อจำเป็น
ทั้ง Ada และ Botpress มีวิธีเชื่อมต่อ AI แชทบอทกับระบบอื่นๆ
Ada มาพร้อมกับการเชื่อมต่อสำเร็จรูป 19 รายการ โดยเน้นแพลตฟอร์มสนับสนุนลูกค้า เช่น Salesforce, Zendesk และ Gorgias ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ Ada สามารถเชื่อมต่อแชทบอทกับ Salesforce เพื่อดึงบทความจากฐานความรู้หรือส่งต่อบทสนทนาให้เจ้าหน้าที่สด ช่วยให้ทีมตอบคำถามลูกค้าได้เร็วขึ้น
Botpress มีการเชื่อมต่อสำเร็จรูปมากกว่า 190 รายการ และสร้างการเชื่อมต่อแบบกำหนดเองได้ง่าย ธุรกิจที่ใช้ Botpress สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมืออย่าง HubSpot, Salesforce และ Zendesk เพื่อตรวจสอบข้อมูลลูกค้าผ่าน API อัปเดตข้อมูล CRM หรือเรียกใช้เวิร์กโฟลว์ซับซ้อนข้ามหลายระบบ
กรณีการใช้งาน
สรุปสั้น ๆ: ในขณะที่ Ada มุ่งเน้นเฉพาะงานบริการลูกค้า Botpress สามารถนำไปใช้กับ การทำงานอัตโนมัติของกระบวนการธุรกิจ ได้ทุกประเภท
จุดเด่นของ Ada คือช่วยธุรกิจอัตโนมัติการสนทนาสนับสนุนลูกค้าและส่งต่อแชทให้เจ้าหน้าที่ได้อย่างราบรื่น ธุรกิจมักเลือก Ada เมื่อต้องการโซลูชันเฉพาะด้านบริการลูกค้าและไม่มีแผนขยายการใช้งาน
Botpress ถูกออกแบบให้ขยายไปยังแอปพลิเคชันธุรกิจหลากหลาย เช่น บริการลูกค้า การสร้างลีด และกระบวนการภายใน หลายองค์กรเริ่มต้นด้วยแชทบอทเดียว เช่น ฝ่ายบริการลูกค้า แล้วขยาย AI ไปยังงาน HR, IT หรือการขาย สร้างระบบ AI แบบครบวงจร
ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
ความสามารถด้านความรู้
สรุปสั้น ๆ: Ada เน้นการตั้งค่าช่องสนทนาอย่างง่ายโดยใช้เนื้อหาสนับสนุนที่มีอยู่ ส่วน Botpress มีความยืดหยุ่นมากกว่า สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลและ API ที่หลากหลาย
Ada มุ่งเน้นให้งานอัตโนมัติฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเป็นเรื่องง่าย ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อ Ada กับฐานความรู้ที่มีอยู่ในเครื่องมืออย่าง Zendesk หรือ Salesforce เพื่อให้แชทบอทตอบคำถามทั่วไปได้อย่างแม่นยำ
Ada ยังมี Knowledge API ให้ทีมเพิ่มข้อมูลเฉพาะที่บอทสามารถดึงมาใช้ระหว่างแชท เหมาะกับทีมที่ต้องการแชทบอทที่อ้างอิงเนื้อหาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสนับสนุนยอดนิยมได้อย่างราบรื่น
Botpress ก็อัตโนมัติฝ่ายสนับสนุนลูกค้าได้ด้วย FAQ และฐานความรู้เช่นกัน แต่ Botpress ไปไกลกว่า โดยให้ทีมเชื่อมต่อข้อมูลทุกประเภท ทั้งตารางข้อมูล ไฟล์ JSON หรือข้อความอิสระ
ระบบของ Botpress มี RAG (Retrieval-Augmented Generation) ขั้นสูงในตัว ช่วยให้บอทค้นหาข้อมูลขนาดใหญ่และตอบกลับแบบเฉพาะบุคคลได้ทันที รองรับการเชื่อมต่อ API ให้บอทเข้าถึงข้อมูลสดจากภายนอก เพิ่มความเข้าใจบริบทและสร้างตรรกะสนทนาขั้นสูง
การปรับแต่งและความยืดหยุ่น
สรุปสั้น ๆ: ด้านการปรับแต่ง Botpress โดดเด่นในฐานะหนึ่งในตัวเลือกที่ยืดหยุ่นที่สุดในตลาด ให้ทีมควบคุมการทำงานและการเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ Ada ปรับแต่งได้เฉพาะส่วนหน้าเท่านั้น
Ada เน้นให้ปรับแต่งเฉพาะหน้าตาแชทบอท เช่น การใส่แบรนด์ แต่ไม่รองรับการเพิ่มตรรกะหลังบ้าน เขียนโค้ด หรือสร้างการเชื่อมต่อขั้นสูงเกินกว่าที่เครื่องมือภาพทำได้
.webp)
Botpress ในทางกลับกัน ให้ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งที่เหนือกว่า โดยเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถเขียนโค้ด JavaScript หรือ TypeScript, เรียกใช้ API ภายนอก, รันสคริปต์ และสร้างตรรกะหรือการเชื่อมต่อขั้นสูงเพิ่มเติมได้ สิ่งนี้ทำให้ Botpress เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทีมที่ต้องการอิสระในการสร้างประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้สูง
.webp)
หน่วยความจำ
สรุปสั้น ๆ: Ada ไม่มีหน่วยความจำถาวรนอกเหนือจากแต่ละบทสนทนา แต่ Botpress สามารถจดจำผู้ใช้ข้ามเซสชันได้ รวมถึงเก็บบริบทต่อเนื่องในระยะยาว
Ada สามารถเก็บและใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ระหว่างการสนทนาเดียว เช่น การจดจำหมายเลขคำสั่งซื้อหรือความชอบของผู้ใช้ภายในแชทนั้น อย่างไรก็ตาม Ada ไม่มีระบบหน่วยความจำถาวรในตัวสำหรับจดจำรายละเอียดผู้ใช้ข้ามหลายเซสชัน หากต้องการเก็บข้อมูลระยะยาว ธุรกิจต้องเชื่อมต่อ Ada กับระบบภายนอก (เช่น CRM) ผ่าน API เพื่อดึงข้อมูลผู้ใช้เมื่อเริ่มต้นแต่ละการสนทนา
Botpress มีความสามารถด้านหน่วยความจำในตัว สามารถบันทึกและเรียกคืนข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ข้ามเซสชัน ทำให้แชทบอทสามารถจดจำผู้ใช้ที่กลับมา จำการสนทนาในอดีต และปรับแต่งการโต้ตอบให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ต่อเนื่อง
Botpress ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนากำหนดวิธีใช้หน่วยความจำได้เอง เช่น แชทบอทอาจจดจำปัญหาที่ลูกค้าเคยแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ หรือจดจำความชอบของลูกค้า ซึ่งเหมาะสำหรับกรณีใช้งานที่ต้องการความต่อเนื่องและการปรับแต่ง เช่น การบริการลูกค้าที่มีผู้ใช้ซ้ำ
ชุมชนและการสนับสนุน
สรุปสั้น ๆ: ทั้ง Ada และ Botpress มีแหล่งข้อมูล เช่น สถาบันการเรียนรู้และเอกสารประกอบ แต่ Ada เน้นช่องทางแบบดั้งเดิม ในขณะที่ Botpress ให้การสนับสนุนด้วยทีมงานที่พร้อมช่วยเหลือและชุมชนที่มีความเคลื่อนไหว
โดยพื้นฐานแล้ว Ada และ Botpress มีหลักสูตรการเรียนรู้ผ่านสถาบันของแต่ละเจ้า เอกสารที่ค้นหาได้ วิดีโอสอน และบริการแชทซัพพอร์ตในบางรูปแบบ
Ada ใช้รูปแบบการสนับสนุนแบบดั้งเดิม: Ada Academy มีคอร์สเรียนพร้อมแนะแนว และผู้ใช้สามารถค้นหาคำตอบได้ในศูนย์ช่วยเหลือ สำหรับความช่วยเหลือโดยตรง Ada มีบริการซัพพอร์ตทางอีเมลและบริการเสริม เช่น การอบรมและแนะนำการใช้งาน
ในทางตรงข้าม Botpress ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการขยายตัวด้วยระบบสนับสนุนที่มีส่วนร่วมมากกว่า เช่น
- บริการแชทสดสำหรับแผน Plus ขึ้นไป
- Max แชทบอทซัพพอร์ตของ Botpress สำหรับแก้ปัญหาเบื้องต้นทันที
- ทีม Customer Success เฉพาะทางสำหรับแผน Team และ Enterprise
- ชุมชน Discord กว่า 30,000 คน สำหรับขอความช่วยเหลือและ AMA สดกับผู้เชี่ยวชาญ Botpress ทุกวัน
ในขณะที่ Ada เน้นความเป็นระบบ Botpress ผสมผสานทั้งโครงสร้างและความยืดหยุ่น เหมาะกับทีมที่ต้องการทั้งแหล่งข้อมูลแบบบริการตนเองและการเข้าถึงเจ้าหน้าที่โดยตรง
แพลตฟอร์มไหนเหมาะกับธุรกิจของฉันมากกว่า?
สถานการณ์บริการลูกค้าที่กำลังเติบโต
ปัญหาหลัก: การขยายงานบริการลูกค้าโดยยังคงตอบกลับได้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ
สรุปสั้น ๆ: ทั้ง Ada และ Botpress สามารถช่วยขยายบริการลูกค้าด้วยแชทบอทที่ตอบคำถามที่พบบ่อยและส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ได้
Lena ดูแลฝ่ายซัพพอร์ตของแบรนด์อีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทีมของเธอต้องรับมือกับคำถามจำนวนมากทุกวันเกี่ยวกับการจัดส่งและนโยบายคืนสินค้า เธอต้องการวิธี ขยายการซัพพอร์ตและลดเวลาตอบกลับ Lena ต้องการ:
- แชทบอทที่ตอบคำถามที่พบบ่อยได้อย่างแม่นยำ
- การส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่แชทสดอย่างราบรื่นเมื่อจำเป็น
- ตั้งค่าได้รวดเร็วโดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรด้านเทคนิคมาก
เมื่อใช้ AI ในการบริการลูกค้า ทั้ง Ada และ Botpress สามารถช่วย Lena จัดการคำถามซ้ำ ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมได้
Ada ช่วยสร้างแชทบอทบริการลูกค้าได้ง่าย ตอบคำถามที่พบบ่อยและโอนการสนทนาไปยังเจ้าหน้าที่เมื่อจำเป็น มีการเชื่อมต่อกับเครื่องมืออย่าง Zendesk และ Salesforce ทำให้ Lena เชื่อม Ada กับระบบซัพพอร์ตเดิมได้โดยตรง Ada ยังช่วยให้ตอบคำถามได้สม่ำเสมอในทุกช่องทาง เช่น เว็บ แอปมือถือ และโซเชียลมีเดีย ลูกค้าจึงได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทุกที่ที่ติดต่อเข้ามา อย่างไรก็ตาม
Botpress รองรับทั้งการตอบคำถามทั่วไปและการส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ แต่ยังมีทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับแต่งและเชื่อมต่อระบบลึกขึ้น เช่น Lena สามารถใช้ Botpress เชื่อมต่อแชทบอทกับ CRM อัปเดตข้อมูลลูกค้าอัตโนมัติ หรือสั่งให้ส่งโค้ดส่วนลดเฉพาะบุคคลหลังจบการสนทนา ที่สำคัญ Botpress มีราคาที่เหมาะสมกับธุรกิจขนาดกลางมากกว่า ไม่ต้องเจอกับค่าใช้จ่ายสูงแบบแพลตฟอร์มที่เน้นองค์กรขนาดใหญ่
สรุปคือ Ada เหมาะกับการเริ่มต้นใช้งานแชทบอทได้อย่างรวดเร็ว ส่วน Botpress ให้ Lena ควบคุม ปรับแต่ง และขยายกระบวนการซัพพอร์ตได้มากขึ้นเมื่อธุรกิจเติบโต
สถานการณ์บริการลูกค้าหลายภาษา หลายช่องทางสำหรับมาร์เก็ตเพลส
ปัญหาหลัก: ให้การสนับสนุนที่รวดเร็วและสม่ำเสมอในหลายช่องทางและหลายภาษา สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วโลก
สรุปสั้น ๆ: ทั้ง Ada และ Botpress ช่วยให้มาร์เก็ตเพลสให้บริการลูกค้าในวงกว้างได้ แต่ Botpress มีความสามารถด้านหลายภาษามากกว่าและยืดหยุ่นในการทำงานอัตโนมัติที่ซับซ้อนและหลายช่องทาง
Maya ดูแลฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าของมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ที่เติบโตเร็ว เชื่อมผู้ซื้อและผู้ขายทั่วโลก ทีมของเธอต้องรับมือกับคำถามจำนวนมากเกี่ยวกับรายการสินค้า การชำระเงิน ปัญหาบัญชี และข้อพิพาท ทั้งหมดนี้ในหลายภาษาและหลายช่องทาง เช่น เว็บแชท WhatsApp และ Messenger Maya ต้องการ:
- แชทบอทที่เข้าใจและตอบกลับได้หลายภาษา
- ประสบการณ์การให้บริการลูกค้าที่สม่ำเสมอในทุกแพลตฟอร์ม
- ความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้านเพื่อปรับแต่งการช่วยเหลือและแก้ปัญหาอัตโนมัติ
Ada ช่วยให้มาร์เก็ตเพลสอย่างของ Maya สร้างแชทบอทบริการลูกค้าได้ง่ายโดยไม่ต้องเขียนโค้ด มีการเชื่อมต่อกับเครื่องมือยอดนิยม เช่น Zendesk และ Salesforce และช่วยให้ตอบคำถามแบบสคริปต์ได้สม่ำเสมอในหลายช่องทาง อย่างไรก็ตาม Ada เน้นที่การตอบคำถามทั่วไปและการส่งต่อเจ้าหน้าที่เป็นหลัก และอาจไม่เหมาะกับเวิร์กโฟลว์หลายภาษาหรือการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไดนามิกที่ซับซ้อนเกินกว่าความสามารถในตัว
Botpress เหมาะสำหรับมาร์เก็ตเพลสที่ต้องการบริการหลายภาษาและหลายช่องทางขั้นสูง มี ความเข้าใจภาษาธรรมชาติ ที่แม่นยำในหลายภาษาและปรับบทสนทนาได้ตามบริบท เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอย่าง WhatsApp, Messenger และวิดเจ็ตเว็บแชทแบบกำหนดเองได้อย่างไร้รอยต่อ ที่สำคัญยังเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้านได้ลึก ทำให้บอทตรวจสอบข้อมูลบัญชีหรือแก้ไขข้อพิพาทแบบเรียลไทม์ได้
สุดท้ายแล้ว หาก Maya ต้องการบริการลูกค้าหลายภาษาที่สม่ำเสมอในทุกช่องทาง พร้อมเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับระบบหลังบ้าน Botpress คือทางเลือกที่ดีกว่า
สถานการณ์บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล
ปัญหาหลัก: ให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็วและเฉพาะบุคคล โดยจดจำประวัติและความชอบของแต่ละคนเพื่อเพิ่มความพึงพอใจและความภักดี
สรุปสั้น ๆ: Ada เหมาะกับการจัดการคำถามที่พบบ่อยและเวิร์กโฟลว์บริการมาตรฐาน แต่มีข้อจำกัดเรื่องหน่วยความจำข้ามเซสชัน ในขณะที่ Botpress สามารถเก็บบริบทและประวัติลูกค้าได้ ทำให้โต้ตอบแบบเฉพาะบุคคลได้มากขึ้น
Rachel ดูแลฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทประกันบ้านระดับประเทศ ทีมของเธอต้องรับมือกับคำถามนับพันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เรื่องความคุ้มครองไปจนถึงการอัปเดตเคลม ลูกค้ามักติดต่อซ้ำเกี่ยวกับเรื่องเดิมและคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่หรือแชทบอทจะรู้ประวัติเดิมโดยไม่ต้องอธิบายซ้ำ
สิ่งที่ Rachel ต้องการ:
- แชทบอทที่จดจำการสนทนาและรายละเอียดลูกค้าในอดีตได้
- ความสามารถในการดึงข้อมูลกรมธรรม์และสถานะเคลมแบบเรียลไทม์จากระบบหลังบ้าน
- เครื่องมือสำหรับให้บริการที่ปรับแต่งตามประวัติและโปรไฟล์ของลูกค้าแต่ละคน
Ada เหมาะกับธุรกิจแบบ Rachel ที่ต้องการแชทบอทสำหรับตอบคำถามทั่วไปและนำทางลูกค้าผ่านงานบริการมาตรฐาน เชื่อมต่อกับเครื่องมืออย่าง Zendesk และ Salesforce เพื่อดึงข้อมูลหรือสร้างทิกเก็ตซัพพอร์ต และในฐานะองค์กรระดับประเทศ องค์กรของ Rachel ก็น่าจะมีงบประมาณสำหรับโซลูชันระดับองค์กรของ Ada
อย่างไรก็ตาม Ada ทำงานเป็นแชทบอทแบบเซสชัน ไม่จดจำบริบทข้ามการสนทนาหรือเก็บประวัติลูกค้าโดยอัตโนมัติ ซึ่งจำกัดความสามารถในการให้บริการแบบเฉพาะบุคคล
Botpress เหมาะสำหรับทีมที่ต้องการสร้างประสบการณ์บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง แชทบอทของ Botpress สามารถจดจำการสนทนาในอดีตและเก็บบริบทข้ามเซสชัน แม้ลูกค้าจะกลับมาติดต่อใหม่หลังจากผ่านไปหลายวันหรือหลายสัปดาห์
Botpress เชื่อมต่อกับระบบ backend ได้โดยตรง ทำให้สามารถดึงข้อมูลสด เช่น รายละเอียดกรมธรรม์หรือสถานะการเคลม เพื่อให้ลูกค้าได้รับคำตอบที่ถูกต้องและเฉพาะเจาะจง นั่นหมายความว่าลูกค้าของ Rachel จะรู้สึกว่าได้รับการใส่ใจและมีคุณค่า ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทุกครั้งที่ติดต่อเข้ามา
สรุปคือ Botpress เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับทีมอย่างของ Rachel เพราะช่วยให้บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลในวงกว้างได้ ด้วยความสามารถในการจดจำข้อมูลและเชื่อมต่อกับระบบ backend
สรุปเปรียบเทียบ: Botpress กับ Ada
ทั้ง Botpress และ Ada ต่างก็มีโซลูชั่นแชทบอท AI ที่มีประสิทธิภาพ แต่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ที่ต่างกัน
Ada เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการเปิดใช้งานบอทบริการลูกค้าอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเขียนโค้ด ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับปริมาณคำถามแบบ FAQ จำนวนมาก และให้คำตอบที่สอดคล้องกันในทุกช่องทาง แต่ด้วยราคาที่สูงและสถาปัตยกรรมแบบ session-based จึงเหมาะกับบริษัทที่มีงบประมาณมากและต้องการระบบสนับสนุนที่ไม่ซับซ้อน
Botpress เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับทีมที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นจากแชทบอทบริการลูกค้า เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและใหญ่ที่ต้องการสร้างเอเจนต์ที่จดจำการสนทนาเดิม เชื่อมต่อกับระบบ backend และมอบประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
คำถามที่พบบ่อย
1. แพลตฟอร์มไหนรองรับอุตสาหกรรมที่มีข้อบังคับ เช่น การเงินหรือสุขภาพ ได้ดีกว่า?
สำหรับอุตสาหกรรมที่มีข้อกำหนดเข้มงวด เช่น การเงินหรือสุขภาพ Botpress ให้การรองรับที่แข็งแกร่งกว่า เพราะสามารถติดตั้งในองค์กรได้เอง ควบคุมการไหลของข้อมูลได้เต็มที่ และปรับแต่งความปลอดภัยได้ตามต้องการ ส่วน Ada แม้จะรองรับมาตรฐานอย่าง SOC 2 และ HIPAA แต่เนื่องจากเป็นระบบคลาวด์เท่านั้นและมีข้อจำกัดในการเชื่อมต่อ backend อาจไม่เหมาะกับความต้องการด้าน compliance ที่เข้มงวด
2. Botpress และ Ada เปรียบเทียบกันอย่างไรเมื่อต้องรับมือกับกรณีขอบเขตหรือคำถามที่คลุมเครือ?
Botpress รับมือกับกรณีขอบเขตและคำถามที่คลุมเครือได้ดีกว่า เพราะรองรับ retrieval-augmented generation (RAG) และการเรียก API แบบเรียลไทม์ ในขณะที่ Ada จะเน้นการตอบกลับที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและ flow แบบคงที่ ซึ่งอาจทำให้จัดการกับข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนมาแบบไม่คาดคิดได้ไม่ดีเท่า
3. แพลตฟอร์มไหนใช้งานง่ายกว่าในการทดสอบและปรับปรุงก่อนเปิดใช้งานจริง?
การปรับปรุงและทดสอบทำได้ง่ายกว่าบน Botpress เพราะมีเครื่องมือแก้ไข flow แบบภาพ ตัวอย่างการทำงานในตัว ระบบเวอร์ชัน และแยกสภาพแวดล้อมสำหรับ staging กับ production ส่วน Ada รองรับการทดสอบ flow ใน UI แต่ไม่มีฟีเจอร์ staging สำหรับการปรับปรุงที่ซับซ้อน
4. Botpress หรือ Ada มีสภาพแวดล้อมสำหรับทดสอบบอทก่อนนำไปใช้งานจริงหรือไม่?
Botpress รองรับการทดสอบแบบ sandbox ด้วยการโคลน แยกสภาพแวดล้อม และรองรับ staging ทั้งแบบ local หรือบนคลาวด์ ส่วน Ada มีโหมดทดสอบในหน้าสร้างบอท แต่ไม่มี sandbox ที่แยกออกมาโดยสมบูรณ์
5. แพลตฟอร์มไหนเหมาะกับการคัดกรองลูกค้าเป้าหมายด้วย AI หรือระบบอัตโนมัติด้านการขายมากกว่า?
Botpress เหมาะกับระบบขายอัตโนมัติด้วย AI มากกว่า เพราะรองรับการจดจำข้อมูลและ workflow กับ CRM ที่ช่วยให้คัดกรองลูกค้าและส่งต่อได้ตามต้องการ ส่วน Ada เน้นที่งานบริการลูกค้า แม้จะเก็บข้อมูลลูกค้าเป้าหมายได้ แต่ไม่มีเครื่องมือสำหรับงานขายโดยตรง





.webp)
